Theological Reflections

เล่มที่ 5, ฉบับที่ 1 – ตุลาคม 2025


จากไฟสู่การตกต่ำ: วิกฤตการณ์ครั้งสุดท้ายของคริสตจักรนำ้องุ่นใหม่และการเคลื่อนไหวฟื้นฟูทางโทรอนโต แทมปาในประเทศไทย

วันที่: 14 ตุลาคม 2025

ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2025 ศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ในประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ทางสาธารณะที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่ง โดยวันที่ 7 ตุลาคม ข่าวออนไลน์ 7HD ได้รายงานว่า สหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย (Evangelical Fellowship of Thailand - EFT) ได้ระงับสมาชิกภาพของคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ กรุงเทพฯ (New Wine International Church Bangkok) และสั่งให้มีการสอบสวนด้านหลักข้อเชื่อ (Doctrinal investigation) หลังจากเกิดข้อถกเถียงในวงกว้างเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของคริสตจักรดังกล่าว คริสตจักรมีเวลาสามสิบวันในการชี้แจง มิฉะนั้นจะถูกขับออกจากการเป็นสมาชิก ซึ่งการตัดสินใจนี้จะส่งผลให้สถานะทางกฎหมายภายใต้กรมการศาสนาสิ้นสุดลงและจะถูกกำหนดให้เป็น “คริสตจักรเถื่อน” หรือคริสตจักรที่ไม่ได้จดทะเบียน

ทว่าเบื้องหลังเหตุการณ์การดำเนินการดังกล่าว กลับมีคำถามทางศาสนศาสตร์ที่ลึกซึ้งกว่าซ่อนอยู่ ได้แก่ คำถามเรื่องอิทธิพลในระยะยาวของปรากฏการณ์ “พระพรจากโตรอนโต (Toronto Blessing)” และศาสนศาสตร์ “ไฟแห่งการฟื้นฟู (Fire revival)” ของ ร็อดนีย์ ฮาวเวิร์ด-บราวน์ (Rodney Howard-Browne) ซึ่งตอนนี้ได้ปรากฏออกมาอย่างเต็มรูปแบบในประเทศไทยผ่านทางคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ กรุงเทพฯ

ความเชื่อมโยงระหว่างแทมปา–ประเทศไทย และการก่อตัวของการเคลื่อนไหว “ไฟพระวิญญาณบริสุทธิ์”

รากฐานของการเคลื่อนไหว “ไฟพระวิญญาณบริสุทธิ์” ของไทยสามารถสืบย้อนกลับไปได้โดยตรงถึงร็อดนีย์ ฮาวเวิร์ด-บราวน์ และพันธกิจของเขา คือ รีไววัล มินิสทรีส์ อินเตอร์เนชันแนล (Revival Ministries International – RMI) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแทมปา รัฐฟลอริดา ความเชื่อมโยงนี้เกิดขึ้นผ่านประสบการณ์และพันธกิจของ นพ. วรุณ เลาหประสิทธิ์ ผู้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการนำเสนอและปรับศาสนศาสตร์การฟื้นฟูของฮาวเวิร์ด-บราวน์ให้เข้ากับบริบทของคริสเตียนสายคาริสมาติกในประเทศไทย

นพ. วรุณ เลาหประสิทธิ์ ได้กล่าวเป็นคำพยานต่อสาธารณะว่า เขาและภรรยาได้เข้าร่วมการประชุมฟื้นฟูของฮาวเวิร์ด-บราวน์ ณ คริสตจักรเดอะริเวอร์ แอท แทมปาเบย์ (The River at Tampa Bay Church) และ “ได้รับการสัมผัสโดยการทรงสถิตของพระเจ้าที่จับต้องได้” คำบรรยายของเขาที่เล่าถึงการได้เห็นผู้คนล้มลงภายใต้ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า สะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์ “การล้มลงในพระวิญญาณ” (Slain in the Spirit) ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของการประชุมของฮาวเวิร์ด-บราวน์ จากประสบการณ์ครั้งนั้น เขาได้รับเอาแนวคิดเรื่อง “ไฟพระวิญญาณบริสุทธิ์” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในศาสนศาสตร์พระวิญญาณบริสุทธิ์ (Pneumatology) ของฮาวเวิร์ด-บราวน์มา และได้พัฒนาพันธกิจที่มุ่งเน้นไปที่การวางมือและการส่งผ่าน “ไฟ” ซึ่งแนวปฏิบัติเหล่านี้ต่อมาได้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของการนมัสการฟื้นฟูของเขาในประเทศไทย

เมื่อฮาวเวิร์ด-บราวน์จัดการประชุม Great Awakening Meeting (ซึ่งคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ กรุงเทพฯ เรียกว่าการประชุม “พระวิญญาณบริสุทธิ์และไฟ”) ณ กรุงเทพฯ ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2019 นพ. วรุณ เลาหประสิทธิ์ ได้ทำหน้าที่เป็นผู้แปลภาษาไทยอย่างเป็นทางการให้กับเขา ซึ่งเป็นบทบาทที่ต้องอาศัยความเข้าใจทางศาสนศาสตร์ที่สอดคล้องกันและความคุ้นเคยอย่างลึกซึ้งกับเนื้อหาคำสอน ทว่าพันธกิจของนพ. วรุณ เลาหประสิทธิ์นั้นมีมาก่อนเหตุการณ์นี้ ใน ค.ศ. 2013 มีโพสต์บนเฟซบุ๊กที่แสดงให้เห็นว่า ในขณะนั้นเขาซึ่งเป็นตัวแทนจากคริสตจักร New Hope International Church เมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา กำลังประชาสัมพันธ์งาน “การฟื้นฟูด้วยไฟแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์” (Fire of the Holy Spirit Revival) ในจังหวัดสงขลา ภาพเปลวไฟบนโปสเตอร์และการเน้นย้ำถึงการสำแดงทางกายภาพบ่งชี้ว่า ศาสนศาสตร์นี้ได้หยั่งรากลงในประเทศไทยแล้วก่อนที่จะเกิดกระแสการฟื้นฟูในระลอกหลัง (Laohaprasit & Laohaprasit, 2013) พอถึงปี ค.ศ. 2014 เขาก็ได้จัดทัวร์ “ไฟแห่งการฟื้นฟู” ในจังหวัดสงขลาและกรุงเทพฯ ขณะเป็นตัวแทนจากคริสตจักร New Hope International Church เมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงกิจกรรมการฟื้นฟูของเขาเข้ากับเครือข่ายคาริสมาติกในอเมริกาโดยตรง (Kasama, 2014)

ความร่วมมือข้ามชาตินี้ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เมื่อวันที่ 11–13 ตุลาคม ค.ศ. 2025 ที่ผ่านมา คริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ กรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหว “ไฟแห่งการฟื้นฟู” ได้จัดงาน “ค่ายแหวกทะเลแดง Camp” นำโดย โจชัว ฮัมฟรีย์ (Joshua Humphrey) ผู้ประกาศข่าวประเสริฐที่สังกัดกับองค์กรรีไววัล มินิสทรีส์ อินเตอร์เนชันแนลและคริสตจักรเดอะริเวอร์ แอท แทมปาเบย์ ภาพถ่ายจากเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของคริสตจักรแสดงให้เห็นภาพสมาชิกนอนราบกับพื้นและแสดงอาการต่างๆ ซึ่งเหมือนกับการสำแดงฤทธิ์เดชที่พบเห็นได้ในพันธกิจของฮาวเวิร์ด-บราวน์ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าความร่วมมือระหว่างคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่และ RMI ยังคงดำเนินอยู่ และยังคงผูกพันในเชิงสถาบันกับเครือข่ายการฟื้นฟูระดับโลกที่มีฐานอยู่ในแทมปา (New Wine International Church Bangkok [Facebook post], 2025)

การตกต่ำทางศาสนศาสตร์และทางคริสตจักร

วิกฤตการณ์ที่ปะทุขึ้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2025 ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นผลสรุปรวบยอดของความสัมพันธ์ที่ยาวนานนับทศวรรษระหว่างกระแสการฟื้นฟูของฮาวเวิร์ด-บราวน์กับการแสดงออกในรูปแบบของไทย แนวปฏิบัติเรื่อง “การส่งผ่านไฟ (Fire impartation)” และ “การล้มลงในพระวิญญาณ (Slain in the Spirit)” ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นหัวใจสำคัญในพันธกิจของคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ กรุงเทพฯ ได้สร้างความกังวลอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้นำโปรเตสแตนต์ไทย สหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทยได้ให้เหตุผลว่า การสำแดงเหล่านี้ถือเป็นการเบี่ยงเบนอย่างร้ายแรงไปจากหลักศาสนศาสตร์พระวิญญาณตามหลักพระคัมภีร์ (Biblical pneumatology) ซึ่งนำไปสู่การเป็นลัทธิเทียมเท็จ รวมถึงการครอบงำและการทารุณกรรมทั้งในด้านจิตวิญญาณ จิตใจ และความคิด

จากมุมมองของโปรเตสแตนต์สายอีแวนเจลิคอล การเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็น:

โดยแก่นแท้แล้ว ข้อถกเถียงนี้ถือเป็นการเผชิญหน้าของคริสตจักรไทยกับการเติบโตอย่างเต็มที่ ของการเคลื่อนไหวที่ นพ. วรุณ เลาหประสิทธิ์ ได้ริเริ่มไว้เมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว อุดมการณ์ “ไฟพระวิญญาณบริสุทธิ์” ได้ปรากฏเป็นรูปธรรมอย่างชัดแจ้งและแน่วแน่ที่สุด ณ คริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ กรุงเทพฯ เป็นศาสนศาสตร์ที่นำเข้ามาโดยมีรากฐานจากแทมปา ที่บัดนี้ผลกระทบของมันกำลังถูกพิจารณาอย่างจริงจัง ณ ใจกลางชุมชนโปรเตสแตนต์ของไทย

บทวิเคราะห์นี้ต่อยอดจากงานศึกษาชิ้นก่อนๆ ของผู้เขียนที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารศาสนศาสตร์โปรเตสแตนต์ไทย (Journal of Thai Protestant Theology) คือเรื่อง “การล้มลงโดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณและไฟแปลกปลอม: การวิเคราะห์เชิงพระคัมภีร์และศาสนศาสตร์ ต่อปรากฏการณ์ของขบวนการนีโอคาริสมาติก” (Saiyasak, April 2025) และเรื่อง “การประเมินของสายอีแวนเจลิคอลนิกายโปรเตสแตนต์ต่อ ‘การล้มลงในพระวิญญาณ’ และ ‘การเคลื่อนไหวไฟ’” (Saiyasak, October 2025) งานเขียนเหล่านั้นได้วางรากฐานทางหลักข้อเชื่อสำหรับการประเมินปรากฏการณ์ “ไฟ” และ “การเจิม”

ส่วนบทความฉบับปัจจุบันนี้ได้ขยายการวิเคราะห์นั้นออกไปโดยการตรวจสอบผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมของคำสอนเหล่านั้น ดังที่ปรากฏเป็นรูปเป็นร่างในคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ กรุงเทพฯ ที่ซึ่งอุดมการณ์การฟื้นฟูที่นำเข้ามาจากโทรอนโตและแทมปาได้ก่อให้เกิดผลกระทบทางศาสนศาสตร์และทางคริสตจักรที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนภายในคริสตจักรไทย

คริสตจักรน้ำองุ่นใหม่เป็นผลสืบเนื่องโดยตรงจากการเคลื่อนไหวฟื้นฟูที่เริ่มต้นโดย ดร. ร็อดนีย์ และ อะดอนิกา ฮาวเวิร์ด-บราวน์ ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 “การประชุมพระวิญญาณบริสุทธิ์ (Holy Ghost meetings)” ของฮาวเวิร์ด-บราวน์ได้ทำให้การสำแดงฤทธิ์เดชในรูปแบบต่างๆ เช่น การหัวเราะ การล้มลง และการสั่น เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ซึ่งเขาเรียกว่า “การดื่มในพระวิญญาณ (Drinking in the Spirit)” การประชุมของเขาสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ แรนดี คลาร์ก (Randy Clark) ผู้ซึ่งพันธกิจของเขาได้จุดประกายให้เกิดปรากฏการณ์ “พระพรจากโทรอนโต” ในปี 1994 ณ คริสตจักรโตรอนโต แอร์พอร์ต วินยาร์ด (Toronto Airport Vineyard Church) การฟื้นฟูที่เกิดขึ้นนี้ได้แพร่ขยายไปทั่วโลกผ่านทางองค์กรแคตช์เดอะไฟร์ (Catch the Fire) เบเธลเรดดิง (Bethel Redding) และคริสตจักรเดอะริเวอร์ ของฮาวเวิร์ด-บราวน์เอง ภายใต้องค์กร RMI และได้หล่อหลอมวัฒนธรรมย่อยของกลุ่มคาริสมาติกยุคใหม่ด้วยชุดคำศัพท์เฉพาะทาง ได้แก่ ไฟ (Fire) การเจิม (Anointing) ความชื่นชมยินดี (Joy) การส่งต่อ (Impartation) และการทรงสถิตอย่างปรากฏชัด (Manifest presence) ศาสนศาสตร์นี้ได้เข้าสู่ทวีปเอเชียผ่านการประชุมนานาชาติ การถ่ายทอดสด และคณะผู้ประกาศที่เดินทางไปทั่วโลก ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีในบริบททางศาสนาของไทย ซึ่งให้คุณค่ากับฤทธิ์อำนาจฝ่ายวิญญาณที่มองเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม

ความเชื่อมโยงระหว่างคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ กรุงเทพฯ และแทมปาเบย์ ไม่ได้เป็นเพียงการคาดเดาแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยตรง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คริสตจักรแห่งนี้ได้เป็นพันธมิตรกับโจชัวและคริสเทน ฮัมฟรีย์ (Joshua and Kristen Humphrey) ผู้ประกาศข่าวประเสริฐเต็มเวลาจากคริสตจักรเดอะริเวอร์ แอท แทมปาเบย์ และเป็นศิษยาภิบาลที่ได้รับการแต่งตั้งภายใต้สมาคมพันธกิจ (Ministerial Association) ของ RMI พันธกิจของพวกเขาที่ชื่อ Good News Global มีอยู่เพื่อจุดประสงค์ในการ “จุดใจให้ลุกโชนและเสริมพลังคริสตจักรให้ออกไปนอกกำแพงสี่ด้าน” วันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2025 เพจ Facebook อย่างเป็นทางการของคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ ได้ประกาศว่า “🔥 เตรียมใจให้พร้อม! Firestorm 🌪️ กำลังจะมาถึง! พร้อมกับ Ps. Joshua และ Ps. Kristen ที่จะจุดไฟพระวิญญาณในชีวิตคุณ!” งานนี้ซึ่งใช้ชื่อว่า “Firestorm” ได้ยืมคำศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการรณรงค์พันธกิจฟื้นฟูของ RMI มาโดยตรง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ กรุงเทพฯ ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายด้านหลักศาสนศาสตร์และกลยุทธ์ของเครือข่ายที่ตั้งอยู่ในแทมปา

สถาบันวิจัยคริสเตียนแห่งสหรัฐอเมริกา (The Christian Research Institute, USA) ได้อธิบายถึงความสำคัญในระดับโลกของปรากฏการณ์ดังกล่าวไว้ว่า:

“ศาสนาคริสต์กำลังเกิดการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ครั้งสำคัญ โดยเปลี่ยนแปลงจากความเชื่อสู่ความรู้สึก จากข้อเท็จจริงสู่จินตนาการ และจากเหตุผลสู่การสำแดงอันลี้ลับ บรรดาผู้นำของ ‘การฟื้นฟูจอมปลอม’ (Counterfeit Revival) นี้ เช่น ร็อดนีย์ ฮาวเวิร์ด-บราวน์ และ จอห์น อาร์นอตต์ ได้สอดแทรกเรื่องที่กุขึ้น จินตนาการเพ้อฝัน และการหลอกลวงเข้าไปในคำเทศนาและการปฏิบัติของพวกเขา... ผู้ติดตามจำนวนมากที่ในตอนแรกได้หลั่งไหลเข้าไปยัง ‘ศูนย์กลางแห่งฤทธิ์อำนาจ’ ของการฟื้นฟูจอมปลอม บัดนี้ได้รู้สึกผิดหวังและได้หลุดลอยไปสู่ดินแดนของลัทธินอกรีต” (Christian Research Institute, 1999, p. 3)

การประเมินที่จริงจังนี้ชี้ให้เห็นว่า ความบิดเบือนทางศาสนศาสตร์ที่กำลังปรากฏขึ้นในประเทศไทยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบที่กว้างขึ้นในระดับโลก

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวของฮาวเวิร์ด-บราวน์เองก็ได้จัดการประชุมวันเดียวในหัวข้อ “พระวิญญาณบริสุทธิ์และไฟ (Holy Ghost and Fire)” ขึ้นที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2019 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “Great Awakening Tour” ของเขา (Revival Ministries International, 2019a, 2019b) กิจกรรมเหล่านี้ได้วางรากฐานสำหรับอิทธิพลอย่างต่อเนื่องของ RMI ในประเทศไทย และปูทางไปสู่ความร่วมมือในภายหลัง เช่น การประชุม Firestorm ของคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่

เพียงสิบวันต่อมา ในวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2025 เพจของคริสตจักรได้เผยแพร่ข้อความเผยพระวจนะจาก Rick Renner ผู้ประกาศชาวอเมริกัน ซึ่งกล่าวถึงการที่เขาได้พบกับ ร็อดนีย์ ฮาวเวิร์ด-บราวน์ ที่ลอนดอนและประกาศว่า “วาระแห่งสงครามและวาระแห่งปาฏิหาริย์กำลังจะมาถึง... พระวิญญาณบริสุทธิ์จะหลอมรวมการเคลื่อนไหวในอดีตทั้งหมดตั้งแต่พระธรรมกิจการจนถึงยุคฟื้นฟูศาสนาให้กลายเป็นหนึ่งเดียวในยุคสมัยของเรา” ด้วยการรับรองคำเผยพระวจนะนี้ คริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในหลักข้อเชื่อการฟื้นฟูยุคสุดท้ายแบบ “ฝนชุกปลายฤดู (Latter-rain)” และความเชื่อที่ว่าประเทศไทยคือแนวหน้าในสงครามฝ่ายวิญญาณระดับโลก

เนื้อหาทางศาสนศาสตร์ในคำเทศนาของคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่เองก็ยืนยันถึงแนวทางเดียวกันนี้ คำสอนที่เผยแพร่โดย ศจ.คมเอก กวินอัครฐิติ ในหัวข้อต่างๆ เช่น “พระเจ้าสามารถพูดกับเราผ่านทางการสำแดงที่ supernatural ได้” “สนามรบในความคิด” “ทำไมคริสเตียน...ถึงเจ็บป่วย” และ “นักกฎหมายแห่งความมืด” ได้เผยให้เห็นแก่นคำสอนในกลุ่มคาริสมาติกที่เชื่อในถ้อยคำแห่งความเชื่อ (Charismatic–Word-of-Faith) อย่างสม่ำเสมอ พวกเขาสอนว่าพระเจ้ายังคงสำแดงความจริงแบบ “เรมา (rhema)” นอกเหนือพระคัมภีร์ เหตุผลของมนุษย์เป็นศัตรูต่อความเชื่อ การรักษาโรคและความมั่งคั่งเป็นสิทธิของผู้เชื่อ และปัญหาเกือบทุกอย่างเป็นรูปแบบหนึ่งของสงครามฝ่ายวิญญาณ ผลลัพธ์ที่ได้คือศาสนศาสตร์ที่มีลักษณะเชิงรหัสยะ (Mystical) แต่เน้นการปฏิบัติ เร้าอารมณ์แต่ก็ใช้อำนาจ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างกระแสการฟื้นฟูแบบโตรอนโตกับหลักคำสอนเรื่องความมั่งคั่งของกลุ่มถ้อยคำแห่งความเชื่อ แม้จะมีการอ้างอิงพระคัมภีร์บ่อยครั้ง แต่ก็ใช้เป็นหลักเพียงเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับประสบการณ์ส่วนตัว

ในบริบทวัฒนธรรมไทยซึ่งมักจะตีความว่าฤทธิ์อำนาจฝ่ายวิญญาณที่มองเห็นได้คือเครื่องยืนยันความแท้จริงจากเบื้องบน กระแสการฟื้นฟูเช่นนี้จึงได้รับการตอบรับอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากหลักคำสอนถูกต้องดั้งเดิมของนิกายโปรเตสแตนต์ ผลลัพธ์คือความเชื่อที่เข้มข้นทางอารมณ์แต่เปราะบางทางหลักศาสนศาสตร์ กล่าวคือ ไฟที่ไร้รากฐาน

การตัดสินใจของสหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทยในการระงับสมาชิกภาพคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ นับเป็นการกำหนดเส้นแบ่งที่เด็ดขาดระหว่างความเร้าใจแบบคาริสมาติกกับภาระรับผิดชอบของนิกายโปรเตสแตนต์ ในทางกฎหมายนั้น การขับออกจากสมาชิกภาพจะเพิกถอนการรับรองจากภาครัฐ ส่วนในทางศาสนศาสตร์ การกระทำนี้บ่งชี้ว่า “ลัทธิฟื้นฟูไฟ (Fire revivalism)” ได้เคลื่อนออกนอกขอบเขตหลักคำสอนถูกต้องดั้งเดิมของโปรเตสแตนต์สายอีแวนเจลิคอล สิ่งที่เริ่มต้นจากการแสวงหาการฟื้นฟูได้พัฒนาไปสู่การเคลื่อนไหวระดับโลกที่มักจะแยกตัวออกจากพระคัมภีร์และระเบียบของคริสตจักร ในประเทศไทย วิถีเดียวกันนี้บัดนี้ได้นำไปสู่การดำเนินการทางวินัยอย่างเป็นสาธารณะและการตกต่ำทางศาสนศาสตร์ ไฟที่ครั้งหนึ่งเคยสัญญาถึงฤทธิ์อำนาจ ได้กลับกลายเป็นเปลวเพลิงแห่งข้อถกเถียงที่กำลัง “ทดสอบความสัตย์ซื่อของคริสตจักรต่อความจริงในพระคัมภีร์”

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2025 ช่อง 7HD สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของประเทศไทย ได้รายงานว่าคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ กรุงเทพฯ ได้ตกเป็นเป้าของการร้องเรียนทั้งทางสาธารณะและทางกฎหมาย รายงานดังกล่าวได้อธิบายถึงกลุ่มนี้ว่าเป็น “ลัทธิแปลก” ที่เผยแพร่ความเชื่อเกี่ยวกับ “ผี” และ “ผีร้าย” ซึ่งมาพัวพันกับหลักศาสนศาสตร์แห่งการฟื้นฟูของพวกเขา อดีตนักศึกษาและผู้ปกครองได้กล่าวหาคริสตจักรว่ามีการหลอกลวงในโครงการการศึกษาและมีส่วนร่วมในแนวปฏิบัติที่เป็นอันตรายต่อสภาพจิตใจ (Channel 7HD News, 2025) ในขณะที่การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป รายงานนี้ได้เปิดเผยว่าสิ่งที่เริ่มต้นจากการเบี่ยงเบนทางศาสนศาสตร์ ได้ยกระดับกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวทางสังคมไปแล้ว การใช้ภาษาเชิงโวหาร คำว่า “ไฟ” และ “วิญญาณ” ของคริสตจักร ซึ่งเดิมทีนำเข้ามาจากกระแสการฟื้นฟูแบบคาริสมาติกของตะวันตก ถูกตีความใหม่ในมุมมองของวัฒนธรรมไทยให้กลายเป็นเพียงลัทธิผีปีศาจ (Spiritism) มากกว่าคริสต์ศาสนา สิ่งนี้ตอกย้ำให้เห็นว่าศาสนศาสตร์แบบผสมผสานความเชื่อ (Syncretistic Theology) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกยอมรับว่าเป็น การฟื้นฟู บัดนี้ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นความสับสนและความเสียหายทางศีลธรรมอย่างที่หลักศาสนศาสตร์โปรเตสแตนต์ได้เตือนไว้อย่างยาวนาน

อิทธิพลของศาสนศาสตร์ “ไฟ” นี้ในปัจจุบันได้ขยายวงกว้างไปไกลกว่าแค่คริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ คุณแชมป์ ลูกศิษย์และบุตรในความเชื่อของ นพ. วรุณ เลาหประสิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งพันธกิจ Bright Romance แสงสว่างแห่งรักที่แท้จริง ยังคงส่งเสริมแนวปฏิบัติ “ไฟ... ไฟ” ที่คล้ายคลึงกัน รวมถึงการวางมือซึ่งมักจะมาพร้อมกับการพูดภาษาแปลกๆ (Glossolalia) แม้ว่าพันธกิจของเขาจะแสดงออกถึงกระแสการฟื้นฟูเดียวกันนี้ในรูปแบบที่อ่อนกว่า (แต่ก็ยังคงนับว่าสุดโต่ง) และไม่ได้แสดงความรุนแรงอย่างเปิดเผยเท่าที่เห็นในคริสตจักรน้ำองุ่นใหม่ กรุงเทพฯ แต่ถึงกระนั้น สิ่งนี้ก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลที่ตกทอดมาของศาสนศาสตร์ของ นพ.วรุณ เลาหประสิทธิ์ในกลุ่มคนไทยรุ่นใหม่สายคาริสมาติกยุคใหม่ (Neo-charismatic) ระยะที่กำลังก่อตัวขึ้นใหม่นี้ (ซึ่งมีความแข็งกร้าวน้อยกว่าแต่ก็ยังคงดำเนินรอยตามรูปแบบของแทมปา) ชี้ให้เห็นว่าการเคลื่อนไหว “ไฟพระวิญญาณบริสุทธิ์” ได้เริ่มผลิตซ้ำตัวเองภายในแวดวงอีแวนเจลิคอลของไทยเองซึ่งเป็นพัฒนาการที่จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองในเชิงศาสนศาสตร์แยกต่างหากต่อไปในอนาคต

ทว่า ไฟในพระคัมภีร์ ไม่ได้มีแต่เพียงด้านการทำลายเท่านั้นแต่ยังมีด้านของการชำระให้บริสุทธิ์ด้วย องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นประดุจไฟถลุงแร่และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงก่อให้เกิดผลคือ ความรัก สันติสุข และการควบคุมตนเอง ไม่ใช่ว่าความวุ่นวายและความตื่นตาตื่นใจ หากข้อถกเถียงนี้จะนำพาคริสตจักรไทยให้กลับไปสู่การวินิจฉัย และความลึกซึ้งในพระคัมภีร์ สิ่งนี้อาจกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการหล่อหลอมสำหรับชุมชนสายอีแวนเจลิคอลในประเทศก็เป็นได้ ความร้อนรนต้องไม่มอดดับไปแต่ต้องหยั่งรากอยู่บนความจริง ดังที่อัครทูตยอห์นได้เตือนไว้ว่า “จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆ ว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่” มีเพียงไฟที่ทนทานต่อการทดสอบนั้นเท่านั้นที่จะให้ความสว่างแทนที่จะเผาผลาญให้มอดไหม้ไป

References

  1. Channel 7HD News. (2025, October 8). Parents file legal complaint against New Wine International Church Bangkok for alleged fraud and child abuse [Video and news report]. Channel 7HD (BUGABOO.TV). Retrieved from https://news.ch7.com/detail/831772
  2. Christian Research Institute. (1999). The Counterfeit Revival: Rodney Howard-Browne and the Toronto Phenomenon. Charlotte, NC: Christian Research Institute. Retrieved from https://www.equip.org/
  3. Kasama Phansanyayasak. (2014, May 6). Revival meeting: The fire of the Holy Spirit in Thailand [Facebook post]. Facebook. https://www.facebook.com/share/1A8Raebqff
  4. Laohaprasit, V., & Laohaprasit, D. (2013, March 23). Fire of the Holy Spirit Revival (ไฟแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์) [Facebook post]. Retrieved from https://www.facebook.com/dararat.laohaprasit/posts/155386857959479
  5. Revival Ministries International. (2019, September 20). Update from Thailand: People lined up for hours to get into the meeting! Retrieved from https://www.revival.com/a/Update-from-Thailand-People-Lined-up-for-Hours-to-Get-into-the-Meeting
  6. Revival Ministries International. (2019, September 20). Bangkok, Thailand — Holy Ghost and Fire Gathering. Retrieved from https://www.revival.com/a/Bangkok-Thailand
  7. Saiyasak, C. (2025, April 25). Slain in the Spirit and Strange Fire: A Biblical and Theological Critique of Neo-Charismatic Manifestations. Journal of Thai Protestant Theology, 1(1). Retrieved from https://thaiprotestanttheology.mf.or.th/journal/article2.html
  8. Saiyasak, C. (2025, October 9). “Slain in the Spirit” and the “Fire Movement”: An Evangelical Protestant Evaluation. Journal of Thai Protestant Theology, 4(1). Retrieved from https://thaiprotestanttheology.mf.or.th/journal/article9.html
  9. SheepStrong Ministries. (2024). Rodney Howard-Browne is a false teacher. Retrieved from https://sheepstrong.com/blog/rodney-howard-browne-is-a-false-teacher

เกี่ยวกับผู้เขียน

ศจ.ดร. จันทร์สมร ชัยศักดิ์ (Professor of Religious Studies and Missiology) (ไทย, ศิษยาภิบาลคริตจักร์แม่น้ำโขงโนนประเสริฐ) นักศาสนศาสตร์ และศาสนศาสตร์มิชชั่น จังหวัดอุบลราชธานี เป็นกรรมาธิการศาสนศาสตร์ และกรรมาธิการเสรีภาพทางศาสนา ของสหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย (Evangelical Fellowship of Thailand) และของสหกิจเอเชีย (Asia Evangelical Alliance) โดยมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาศาสนศาสตร์และความคิดริเริ่มด้านเสรีภาพทางศาสนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ดร. จันทร์สมร ยังดำรงตำแหน่งนักศาสนศาสเอเชียของสหกิจโลก (World Evangelical Alliance) ใน GA 2025 Theological Project ด้วย ด้วยประสบการณ์ด้านศาสนศาสตร์และการเป็นผู้นำกว่า 40 ปี ดร. จันทร์สมร ได้เป็นผู้นำและอาจารย์สอนที่สถาบันการศึกษาและศาสนศาสตร์คริสเตียน โครงการพัฒนาชุมชน และการก่อตั้งคริสตจักรในประเทศไทยและลาว ดร.จันทร์สมร สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก Doctor of Philosophy (Doctor in Theology and Religious Studies) ด้านศาสนศานตร์และศาสนศึกษา จาก Evangelische Theologische Faculteit (เบลเยียม) และปริญญาเอก Doctor of Ministry and Master of Divinity ด้านศาสนศาสตร์มิชชั่นจาก Mid-America Baptist Theological Seminary (สหรัฐอเมริกา) และ วิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาศาสนา จาก Liberty University (USA) และสำเร็จการศึกษาหลักสูตรการเป็นผู้นำขั้นสูงจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด Harvard University มหาวิทยาลัยเยล Yale University และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด Oxford University พร้อมกันนี้ ดร.จันทร์สมร ยังรับใช้เป็นกรรมการและวิทยากรประจำขององค์กรต่างๆ เช่น SEANET Missiological Forum และ Lausanne Movement’s Worldplace, World Evangelical Alliance, และ Asian Society of Missiology

💬 ร่วมแสดงความคิดเห็น: ร่วมสนทนาบน Facebook

Page Views:

Counters